สรุป 5 อาการเสีย iPhone ที่พบบ่อยที่สุดในปี 2025 พร้อมวิธีซ่อม

ในปี 2025 ผู้ใช้งาน iPhone ยังคงประสบกับปัญหากับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือข้อผิดพลาดที่เกิดจากฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ วันนี้เราจะมาทำ สรุป “5 อาการเสีย iPhone ที่พบบ่อยที่สุดในปี 2025” พร้อมเจาะลึกสาเหตุ อาการที่เกิดขึ้น และแนวทางการซ่อมแซมอย่างละเอียด รวมถึงแนะนำร้านซ่อม iPhone มืออาชีพ “Yuki Center” ที่มีถึง 7 สาขา พร้อมให้บริการอย่างครบวงจร

อาการเสียอันดับ 1: กล้อง iPhone เสีย ถ่ายไม่ได้ หรือภาพเบลอ

สาเหตุโดยละเอียด:

1. กล้องสั่นหลังจากตกกระแทก

เมื่อ iPhone หล่นพื้น อุปกรณ์กันสั่น (OIS) อาจหลุดจากตำแหน่ง ส่งผลให้กล้องเกิดอาการสั่นเขย่า

2. เลนส์กล้องภายในเสียหายจากแรงตกกระแทก หรือหล่นสะสม

ถึงแม้กระจกเลนส์จะไม่แตก แต่ชิ้นส่วนภายในอาจเคลื่อนหรือหลุดล็อก ทำให้โฟกัสภาพผิดปกติ

3. มีฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอมในตัวกล้อง

ฝุ่นละเอียดสามารถเข้าไปในเลนส์และทำให้ภาพเบลอ หรือมีจุดเทาบนภาพได้

4. ตัวกล้องเสียจากความชื้นหรือน้ำเข้า

แม้จะกันน้ำ แต่หากน้ำเข้าตรงตำแหน่งกล้อง ก็อาจทำให้วงจรของกล้องเสียหายได้

5. การอัปเดต iOS บางเวอร์ชันที่มี Bug กับกล้อง เช่น iPhone 14 Pro Max เคยมีปัญหากล้องสั่นตอนใช้แอปของ 3rd Party

อาการที่พบคือ:

• ภาพมัวเบลอ สั่น สีเพี้ยน มีจุด หรือไม่โฟกัส

• กล้องสั่นตอนเปิดแอป หรือ กล้องมีเสียงช็อต

• หน้าจอดำ หน้าจอมืด เมื่อกดเข้าโหมดกล้อง

• กล้องหน้า/หลังไม่ทำงาน

• เข้าแอปกล้องแล้วเด้งออกจากแอปเอง

แนวทางการซ่อมที่เหมาะสม:

1. จำเป็นต้องแกะเครื่องเพื่อวิเคราะห์ตัวกล้องด้วยกล้องไมโครสโคป ด้วยช่างผู้ชำนาญ

2. ใช้เครื่องมือเฉพาะทางในการทดสอบตัวกล้องว่ายังทำงานหรือไม่

3. หากพบความเสียหายที่ตัวกล้องต้องทำการเปลี่ยนเฉพาะอะไหล่กล้องหน้าหรือหลัง ไม่จำเป็นต้องซ่อมหรือเปลี่ยนเมนบอร์ด

4. ทำให้เครื่องและชิ้นส่วนภายในหายชื้นด้วย Vacuum Dry หากกล้องเสียจากการทำเครื่องตกน้ำ

5. กรณี Software: Restore หรืออัปเดต iOS ล่าสุด

อาการเสียอันดับ 2: แบตเตอรี่เสื่อม แบตเตอรี่เสีย แบตเตอรี่บวม เครื่องดับเอง

สาเหตุโดยละเอียด:

1. ผ่านรอบการชาร์จเกิน 500–700 ครั้ง

Apple ระบุว่าไว้ว่าแบตเตอรี่ iPhone มีอายุเฉลี่ยประมาณ 2 ปี หรือ ชาร์จ 500 รอบการชาร์จเต็ม

2. ใช้สายชาร์จคุณภาพต่ำ สายปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน

การจ่ายกระแสไฟที่ไม่คงที่ทำให้เซลล์แบตเสื่อมเร็ว และเสี่ยงทำให้วงจรชาร์จช็อตอีกด้วย

3. แบตบวมจากความร้อนสะสม หรือการทำเครื่องหล่นกระแทกบ่อยๆ

เครื่องร้อนจัดขณะเล่นเกมหรือใช้งานหนักบ่อยๆ ทำให้เซลล์ในแบตเตอรี่บวมได้

4. การชาร์จแบตผิด เช่น ชาร์จข้ามคืนบ่อยๆ เสียบแบตไว้ให้เต็ม 100% ตลอดเวลา

ทำให้แบตมีอาการ “ชาร์จหลอก” หรือ “จ่ายไฟหลอก” ได้

อาการที่พบคือ:

• เครื่องร้อนผิดปกติระหว่างใช้งาน

• เครื่องทำงานช้าดูหน่วงๆ

• แบตลดลงรวดเร็ว ลดแบบฮวบฮาบ หรือเปอร์เซ็นต์แบตขึ้นๆ ลงๆ

• เครื่องดับเองแม้เปอร์เซ็นต์แบตยังเหลืออยู่

• ชาร์จแบตไม่เข้า หรือขึ้นคำว่า “กำลังฟื้นฟูระบบแบตเตอรี่”

• ชาร์จแบตเต็มเร็วมาก และ แบตก็หมดเร็วมากเช่นกัน

• แบตบวมจนดันหน้าจอให้อ้าออก

แนวทางการซ่อมที่เหมาะสม:

1. ตรวจสอบ Battery Health ด้วยโปรแกรม เช่น 3uTools

2. ให้ช่างใช้เครื่องวัดค่าแบต เพื่อตรวจสอบว่าเซลล์แบตเสื่อมไหม

3. แกะเครื่องด้วยเครื่องมือเฉพาะสำหรับซ่อม iPhone

4. เปลี่ยนแบตเตอรี่แท้ (หรือ OEM Grade) พร้อมเทปกันไฟรั่วและแผ่นกันร้อน

5. ควรตรวจเช็กการชาร์จอีกครั้งหลังเปลี่ยนแบตก้อนใหม่

   
   

อาการเสียอันดับ 3: หน้าจอแตก ทัชไม่ติด จอมืดจอดำ

สาเหตุโดยละเอียด:

1. หล่นกระแทกแรง หรือ โดนแรงกดทับจนหน้าจอแตก

บางครั้งกระจกไม่แตก แต่ชั้นทัชสกรีนด้านในเสียหายทำให้สัมผัสไม่ติดหรือสัมผัสรวน ไปจนถึงจอการแสดงภาพเสีย

2. จอภาพ (LCD/OLED) แตกเสียหาย

เมื่อหน้าจอโดนกระแทกทำให้เกิดเส้นสีขาว สีเขียว หรือจอไม่แสดงผลได้

3. น้ำความชื้นอาจเข้าทางรอยร้าวของจอ

น้ำอาจเข้าไปทำลายแผงวงจรภายในชั้นจอโดยที่ไม่เห็นด้วยตาเปล่า

4. การใช้ฟิล์มกระจกคุณภาพต่ำ

เช่น ฟิล์มหนากว่ากระจกของหน้าจอ ทำให้กดยากเกิดแรงกดสะสมเฉพาะจุดจนจอเสีย

5. ความเสื่อมจากการใช้งานมานาน

หน้าจออาจเกิดการเสื่อมสภาพจากการใช้งานและเสียเองได้ เช่น หน้าจอดับ หรือ ทัชสกรีนเสียเอง

อาการที่พบคือ:

• จอร้าว ทัชไม่ได้ หรือทัชเพี้ยน

• จอแตกละเอียด ไม่สามารถใช้งานได้

• จอดำ จอมืด จอไม่แสดงภาพ หรือ แสดงภาพแค่บางส่วน

• หน้าจอมีเส้นสีขึ้น จะเป็นเส้นพาดแนวนอน/ตั้ง

แนวทางการซ่อมที่เหมาะสม:

1. หากแค่กระจกแตก: แนะนำให้ลอกเปลี่ยนเฉพาะชั้นกระจก ใช้จอแท้เหมือนเดิม

2. หากจอเสียหรือเส้นขึ้น: เปลี่ยนจอใหม่ทั้งชุด (จอแท้/เกรดพรีเมียม)

3. ทดสอบระบบ True Tone และ Face ID รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ให้ครบหลังการเปลี่ยนจอ

อาการเสียอันดับ 4: ลำโพงหรือไมค์มีปัญหา

สาเหตุโดยละเอียด:

1. ฝุ่นหรือขี้เกลือสะสมในช่องลำโพง/ไมค์

สามารถเกิดได้กับทุกเครื่อง โดยเฉพาะเครื่องที่ใช้งานอย่างไม่ระมัดระวัง และไม่ดูแลรักษาเครื่อง

2. น้ำเข้าจนขั้วลำโพงหรือไมค์ชื้นทำให้อุปกรณ์ช็อต

ทำให้เสียงเบา แตก หรือไม่ดังเลย

3. ปัญหาสายแพรหรือไอซีลำโพง/ไมค์

ชิ้นส่วนเหล่านี้อยู่บนเมนบอร์ด และอาจช็อตหรือวงจรไฟขาดเมื่อเกิดความร้อนหรือชื้นสะสม

อาการที่พบคือ:

• เสียงสนทนาไม่ชัด บางจังหวะเสียงขาดๆ หายๆ ไปจนถึงไม่ได้ยินเสียงเลย

• ไมค์ไม่สามารถจับเสียงเวลาอัดวิดีโอได้ รวมไปถึงระบบเสียงต่างๆ ไม่สามารถใช้งานได้ เช่น พูดไปฝั่งตรงข้ามไม่ได้ยิน ลำโพงไม่ได้ยิน

• เสียงแจ้งเตือนต่างๆ เสียงเรียกเข้าหายไปหรือเบาลงมาก

แนวทางการซ่อมที่เหมาะสม:

1. จำเป็นต้องแกะเครื่องเพื่อถอดชุดลำโพงออกมาและตรวจสอบด้วยเครื่องมือเฉพาะทาง

2. ใช้แปรงขนนุ่ม + น้ำยาสำหรับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคล้างคราบออกจากลำโพง

3. หากแพรลำโพงขาด หรือ ช็อตสามารถเปลี่ยนอะไหล่แท้ใหม่ตรงรุ่นได้เลย

4. ถ้าไม่ได้เป็นที่อุปกรณ์ต้องตรวจสอบวงจรเมนบร์ดที่ลำโพงเชื่อมต่อ หาก IC เสียหายต้องใช้ช่างซ่อมเมนบอร์ดในการซ่อมอาการนี้

อาการเสียอันดับ 5: เครื่องร้อนผิดปกติ

สาเหตุโดยละเอียด:

1. ใช้งานแอปที่กินพลังงานสูงต่อเนื่อง

เช่น เล่นเกมกราฟิกหนัก (ROV, PUBG), ตัดต่อวิดีโอ, หรือดูวิดีโอ 4K นาน ๆ ทำให้ CPU และ GPU ทำงานหนักจนร้อนจัด

2. อัปเดต iOS ใหม่ที่ยังไม่เสถียร

หลังจากอัปเดต iOS บางเวอร์ชัน เครื่องอาจเกิดการประมวลผลเบื้องหลังสูง เช่น การจัดการรูปภาพหรือไฟล์ระบบ ทำให้เกิดความร้อนชั่วคราว

3. ชาร์จแบตเตอรี่ขณะใช้งาน

โดยเฉพาะหากใช้สายชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐาน จะทำให้ทั้งแบตและเมนบอร์ดร้อนพร้อมกัน เสี่ยงต่ออายุแบตและวงจรเมนบอร์ดช็อต

4. แบตเตอรี่เสื่อมสภาพหรือบวม

เซลล์แบตเสื่อมจะจ่ายไฟไม่คงที่ ทำให้ระบบภายในทำงานหนักเกินจำเป็น ส่งผลให้ตัวเครื่องร้อนแม้ใช้งานปกติก็ตาม

5. สภาพแวดล้อมร้อนจัดหรือวางเครื่องในที่อบอ้าว

เช่น วางไว้ในรถที่จอดตากแดด หรือใส่เคสหนา ๆ ทำให้ความร้อนสะสมโดยไม่มีทางระบาย

6. มีแอปหรือโปรเซสเบื้องหลังทำงานผิดปกติ

เช่น แอปค้าง หรือโปรแกรมบางตัวทำงานวนลูปไม่หยุด ส่งผลให้ CPU ใช้งานต่อเนื่องโดยไม่หยุดพักเลย

อาการที่พบคือ:

• ตัวเครื่องร้อนจนสัมผัสแล้วรู้สึกได้ชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณด้านหลังใกล้กล้อง หรือด้านล่างตรงแบตเตอรี่

• แบตเตอรี่ลดลงเร็วผิดปกติแม้ใช้งานทั่วไป แบตก็ลดฮวบอย่างรวดเร็ว สะท้อนว่าเครื่องทำงานหนักเกินไป

• หน้าจอกระพริบ หน่วง หรือกระตุกเกิดจาก CPU ร้อนจัดจนลดประสิทธิภาพการทำงานเอง (Thermal Throttling)

• แอปเด้งออกเอง หรือเครื่องค้างระบบป้องกันความร้อนอาจหยุดการทำงานของบางแอปโดยอัตโนมัติ

• ข้อความเตือน “iPhone ต้องเย็นลงก่อนจึงจะใช้งานได้” หากร้อนเกินไป iPhone จะแสดงหน้าจอเตือนและหยุดการใช้งานบางฟังก์ชันทันที เช่น กล้อง, ชาร์จ, หรือการโทร

• ไม่สามารถชาร์จแบตได้ (Charging Paused) ระบบจะหยุดชาร์จเพื่อป้องกันความเสียหายจากความร้อน (พบบ่อย)

• กล้องถ่ายแล้วภาพเบลอหรือแสงเพี้ยน ความร้อนอาจส่งผลต่อระบบกันสั่นและเซ็นเซอร์กล้อง ทำให้การถ่ายภาพผิดเพี้ยน

แนวทางการซ่อมที่เหมาะสม:

1. ลองหยุดใช้งานเครื่อง แล้วปล่อยให้เครื่องเย็นลงก่อน หากหยุดเล่นแล้วเครื่องยังไม่หายร้อนแสดงว่าภายในเครื่องมีการช็อตอยู่

2. ให้รีเซ็ตหรืออัปเดต iOS เป็นเวอร์ชันล่าสุด

3. ตรวจสอบการทำงานของ CPU/GPU ด้วยโปรแกรม iTools

4. ถอดเคสออกเพื่อตรวจความร้อนบริเวณเมนบอร์ดและแบตเตอรี่

5. หากพบว่าเป็นที่แบต ให้รีบเปลี่ยนใหม่ทันที โดยร้านที่น่าเชื่อถือ

6. หากเมนบอร์ดร้อน ต้องใช้กล้องอินฟราเรดจับจุดร้อน แล้วเปลี่ยน IC ที่ร้อนผิดปกติทำโดยช่างผู้ชำนาญ

ทำไมควรซ่อม iPhone ที่ Yuki Center?

ศูนย์ซ่อม iPhone ครบวงจรที่เข้าใจคุณทุกปัญหา

ในยุคที่มือถือไม่ใช่แค่เครื่องมือสื่อสาร แต่เป็นทั้ง “ผู้ช่วยส่วนตัว” “กล้องถ่ายภาพชีวิต” และ “เครื่องมือทำมาหากิน” — การเลือกศูนย์ซ่อมมือถือจึงไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป

*และนี่คือเหตุผลที่ทำไมลูกค้าหลายหมื่นรายในไทยถึง “ไว้ใจเลือก Yuki Center” ให้ดูแล iPhone เครื่องสำคัญของพวกเขา

จุดเด่นของ Yuki Center

1.ซ่อมโดยช่างเฉพาะทาง ไม่ใช่แค่เปลี่ยนอะไหล่ แต่เข้าใจเครื่องในระดับบอร์ด

ที่ Yuki Center เราไม่ได้มีแค่ช่างทั่วไป แต่มีทีมช่างเทคนิคเฉพาะทางระดับบอร์ด (Board-level Technician) ที่ผ่านการฝึกฝน และมีประสบการณ์ในการแก้ไขอาการเสียลึกระดับเมนบอร์ด เช่น

• ไอซีชาร์จเสีย ไอซีพาวเวอร์เสีย

• กล้องสั่นจากวงจร OIS ขาด

• CPU ร้อนจนดับ

• Face ID ใช้ไม่ได้เพราะ Flex เสีย

การมีทีมช่างระดับมืออาชีพนี้ช่วยลดโอกาสการเปลี่ยนอะไหล่โดยไม่จำเป็น และทำให้เครื่องกลับมาใช้ได้โดยยังคงรักษาชิ้นส่วนเดิมไว้ได้มากที่สุด

2.เครื่องมือทันสมัย เทียบเท่าศูนย์ใหญ่ เราใช้เครื่องมือซ่อมคุณภาพสูงเทียบเท่าโรงงานผลิต เช่น

• เครื่องตัดต่อสายแพรสำหรับ หน้าจอเขียว หน้าจอขาว หน้าจอดับ ในสมาร์ทโฟนทุกรุ่น

• เครื่องยิงเลเซอร์สำหรับซ่อมหน้าจอขึ้นเส้น ในสามาร์ทโฟนทุกรุ่น

• ลอกกระจก + เครื่อง UV และ OCA สำหรับวางกระจกใหม่

• เครื่องยิงเลเซอร์สำหรับกระจกฝาหลัง iPhone โดยเฉพาะ

• กล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูงสำหรับซ่อมวงจรในเมนบอร์ด

• กล้องจับความร้อน (Thermal Camera) เพื่อวิเคราะห์จุดร้อนบนบอร์ด

• เครื่องรีบอล IC (Reball Machine) สำหรับซ่อมระดับไมครอน

สิ่งเหล่านี้ช่วยให้การซ่อมแม่นยำ ปลอดภัย และยืดอายุการใช้งาน iPhone ของคุณได้เป็นอย่างมาก

3.ใช้อะไหล่แท้และเกรดพรีเมียม มีรับประกันทุกชิ้น

• ทุกแบตเตอรี่ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE, MSDS และมีรหัส Serial ตรวจสอบได้

• จอ iPhone ทุกรุ่นมีให้เลือกทั้ง แท้ และ เกรด OEM คุณภาพสูง

• กล้อง, Face ID, ลำโพง, เมนบอร์ด และชิ้นส่วนอื่น ๆ ทุกชิ้นผ่านการเทสต์ก่อนส่งมอบ

• มีใบรับประกันงานซ่อม 1เดือน ถึง 1ปี แล้วแต่ประเภทของงานซ่อม

เราเชื่อว่าการซ่อมที่ดี เริ่มจากการใช้วัสดุที่ดี Yuki Center ใช้อะไหล่นำเข้า คัดสรรคุณภาพ

4. รวดเร็ว ไม่ต้องรออะไหล่นาน

• iPhone หน้าจอแตก – เปลี่ยนได้ใน 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมง (แล้วแต่รุ่น)

• แบตเตอรี่เสื่อม – เปลี่ยนใหม่ใช้เวลาเพียง 30 นาที  ถึง 2 ชั่วโมง (แล้วแต่รุ่น)

• ซ่อมบอร์ด – ตรวจเช็กเบื้องต้นรู้ผลภายในวัน

เรามีอะไหล่สต็อกพร้อมบริการทุกรุ่น ไม่ต้องรอสั่งหลายวัน (ในกรณีของไม่ขาดตลาด)

5. บริการให้คำปรึกษาฟรี และวิเคราะห์ปัญหาอย่างตรงจุด ราคาโปร่งใส

หลายร้านอาจไม่สามารถบอกคุณได้แน่ชัดว่า “มือถือคุณเสียจากอะไร?”

ที่ Yuki Center เราใช้โปรแกรมวิเคราะห์ภายใน เช่น iBackupBot, iTools, Thermal scan เพื่อ

• แจ้งสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา

• เสนอแนวทางการซ่อมหลายทางเลือก

• ช่วยประเมินความคุ้มค่าของการซ่อมเทียบกับการเปลี่ยนเครื่องใหม่

• ไม่มีการยัดเยียดขายหรือปิดบังปัญหาแน่นอน

6. ดูแลเสมือนเครื่องของเราเอง พร้อมรีวิวระดับ 5 ดาว

• มีผู้ใช้กว่า 100,000 รายทั่วประเทศ

• รีวิวจริงจากลูกค้าใน Google Maps, Facebook และ TikTok

• มีผลานซ่อมจริงให้ดูทั้งก่อน–หลัง

• ไม่หาย ไม่สลับเครื่อง มีระบบตรวจสอบ IMEI และ Serial Number ทุกเคส

7.มีหลายสาขาเดินทางสะดวก

Yuki Center 7 สาขา คลิกที่สาขาได้เลยมีแผนที่นำทางให้

1. สาขารังสิต-ธัญญะ คลองสอง

2. สาขารามอินทรา ซอยรามอินทรา99

3. สาขาทาวน์อินทาวน์-ลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว94

4. สาขาพระราม3 ถนนพระราม3 ซอย40

5. สาขาเอกมัย ซอยเอกมัย10

6. สาขาจตุจักร

7. สาขาเพชรเกษม-บางแค

สอบถามราคาและประเมินอาการเสียฟรี! Line OA: @yukifix_center

สายด่วนๆ Call Center: 093-265-5254

8.บริการที่คนยุคใหม่ชอบ: Walk-in, นัดคิวล่วงหน้า และส่งซ่อมทางไปรษณีย์

• จองคิวออนไลน์ผ่าน Line OA หรือ inbox Facebook

• ส่งเครื่องผ่าน Kerry, Flash, Grab ได้แบบง่าย ๆ เพียงแอดไลน์ official

• มีแอดมินให้คำแนะนำตลอด 10.30 – 20.30 น.

• มีการแจ้งสถานะซ่อมผ่าน LINE/โทรศัพท์ พร้อมแจ้งราคาก่อนซ่อมทุกครั้ง

สรุป

การซ่อม iPhone ไม่ใช่แค่ "ซ่อมให้ใช้ได้" แต่คือการ ซ่อมอย่างเข้าใจ ปลอดภัย และคุ้มค่า

และ Yuki Center คือคำตอบของศูนย์ซ่อม iPhone ที่ตอบโจทย์ทุกด้าน ทั้งมาตรฐาน ความแม่นยำ ความโปร่งใส และความเชื่อมั่น

**หากคุณกำลังมองหาศูนย์ซ่อม iPhone ที่ "มากกว่าแค่การซ่อม" — ให้ Yuki Center ดูแลคุณ

อ่านบทความอื่นที่เกี่ยวข้อง