เช็คค่ากันน้ำ มือถือของเรากันน้ำได้แค่ไหน?
อัปเดตเมื่อ 8 เม.ย.
ใกล้วันสงกรานต์แล้ว เรามาเช็คค่ากันน้ำมือถือของเรากันดีกว่า ว่ามันยังสามารถกันน้ำได้ในระดับไหน? เพื่อความปลอดภัยของโทรศัพท์มือถือเรา
โทรศัพท์หลายๆ รุ่นในปัจจุบันนี้โดยเฉพาะรุ่นเรือธงนั้นมักจะมาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นซึ่งความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่นก็มีหลายระดับบางรุ่นกันได้แค่น้ำกระเด็นใส่ แต่บางรุ่นนั้นสามารถลงดำน้ำได้เลย มาตรฐานการกันน้ำ IP68 หรือ IPX8 เป็นระดับการกันน้ำได้ดีที่สุด หมดห่วงเรื่องเครื่องโดนน้ำ ได้หมดทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะตกน้ำหรือเล่นน้ำวันสงกรานต์
แล้ว IP68 กันน้ำได้ดีแค่ไหน
IP ย่อมาจาก Ingress Protection เป็นมาตรฐานสากลสำหรับวัดระดับการกันน้ำและกันฝุ่นของอุปกรณ์ ตัวเลขอีก 2 ตัวตามที่หลัง IP ก็คือ ตัวเลขแรกหมายถึง ระดับการป้องกันของแข็งรวมถึงฝุ่น มีระดับตั้งแต่ 0-6 ตัวเลขที่สองหมายถึง ระดับการป้องกันน้ำ มีระดับการป้องกันตั้งแต่ 0-9 การกันน้ำให้ดูที่ตัวเลขที่สองเป็นหลัก โดย IP68 จะบอกได้ว่ามือถือเครื่องนั้นกันน้ำได้ลึกมากกว่า 1 เมตร เป็นเวลาประมาณ 30 นาทีนั่นเอง
ดังนั้นการตั้งค่า IP ของแต่ละอุปกรณ์จึงจำเป็นต้องผ่านการทดสอบจากองค์กรอิสระเพื่อวัดระดับ IP ก่อนจึงจะสามารถนำค่าระดับ IP มาใช้โฆษณาได้ โดยค่าตัวเลขแต่ละระดับมีความหมายดังนี้
การป้องกันของแข็งและฝุ่น
๐ IP0X ไม่มีการป้องกันพิเศษ
๐ IP1X ป้องกันของแข็ง ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง > 50 มม.
๐ IP2X ป้องกันของแข็ง ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง > 12.5 มม.
๐ IP3X ป้องกันของแข็ง ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง > 2.5 มม.
๐ IP4X ป้องกันของแข็ง ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง > 1 มม.
๐ IP5X ป้องกันฝุ่น กันฝุ่นเข้า ไม่สะสมในระดับที่เป็นอันตราย
๐ IP6X ป้องกันฝุ่นได้สมบูรณ์
การป้องกันน้ำ
๐ IPX0 ไม่มีการป้องกันพิเศษ
๐ IPX1 ป้องกันน้ำหยดใส่
๐ IPX2 ป้องกันน้ำหยดเมื่อทำมุม 15 องศาจากตำแหน่งปกติ
๐ IPX3 ป้องกันละอองน้ำ
๐ IPX4 ป้องกันน้ำกระเด็นใส่
๐ IPX5 ป้องกันน้ำที่ีฉีดด้วยแรงดันต่ำอย่างน้อย 3 นาที
๐ IPX6 ป้องกันน้ำที่ฉีดด้วยแรงดันสูงอย่างน้อย 3 นาที
๐ IPX7 ป้องกันผลกระทบจากการแช่น้ำลึก 1 เมตร นาน 30 นาที
๐ IPX8 ป้องกันผลกระทบจากการแช่น้ำลึกกว่า 1 เมตร สูงสุดไม่เกิน 30 นาที
ยกตัวอย่างเช่น iPhone 13 มีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ซึ่งหมายความว่า iPhone 13 สามารถกันฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP6X คือกันฝุ่นได้สมบูรณ์ และกันน้ำได้ตามมารตฐาน IPX8 คือกันน้ำได้ลึกกว่า 1 เมตรสูงสุดไม่เกิน 30 นาที
iPhone มีมาตรฐานการกันน้ำที่ IP เท่าไหร่
รุ่นต่างๆ ดังนี้มีระดับอยู่ที่ IP68 ตามมาตรฐาน IEC 60529 (ความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
iPhone 14/ iPhone 14 Plus/ iPhone 14 Pro/ iPhone 14 Pro Max
iPhone 13/ iPhone 13 Mini/ iPhone 13 Pro/ iPhone 13 Pro Max
iPhone 12/ iPhone 12 Mini/ iPhone 12 Pro/ iPhone 12 Pro Max
รุ่นต่างๆ ดังนี้มีระดับอยู่ที่ IP68 ตามมาตรฐาน IEC 60529 (ความลึกไม่เกิน 4 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
iPhone 11 Pro/ iPhone 11 Pro Max
รุ่นต่างๆ ดังนี้มีระดับอยู่ที่ IP68 ตามมาตรฐาน IEC 60529 (ความลึกไม่เกิน 2 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
iPhone 11/ iPhone XS/ iPhone XS Max
รุ่นต่างๆ ดังนี้มีระดับอยู่ที่ IP67 ตามมาตรฐาน IEC 60529 (ความลึกไม่เกิน 1 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
iPhone SE (รุ่นที่2)/ iPhone X/ iPhone XR
iPhone 8/ iPhone 8 Plus
iPhone 7/ iPhone 7 Plus
SAMSUNG S และ NOTE SERIES มีมาตรฐานกันน้ำที่ IP เท่าไหร่
รุ่นต่างๆ ในตระกูล S SERIES และ NOTE SERIES จะอยู่ที่ระดับ IP68 (ความลึกไม่เกิน 1.5 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 30 นาที)
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
ถ้าเป็นเครื่องใหม่ๆ ที่ใช้งานไม่เกิน 3-6 เดือน ประสิทธิภาพการกันน้ำยังคงเต็มที่ 100% แต่ถ้าเครื่องที่ผ่านการใช้งานมามากกว่า 6 เดือน ความร้อนทำให้ประสิทธิภาพของซีลกาวกันน้ำจะเริ่มเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ รวมไปถึงการใช้งานด้วย เช่น การทำเครื่องตกหล่นหรือกระแทก ทำให้บอดี้ของเครื่องเกิดการบิด เบี้ยว งอ เกิดช่องโหว่เล็กๆ ทำให้ความชื้นหรือของเหลวต่างๆ สามารถที่จะเข้าไปและทำให้เครื่องเสียหายได้ กรณีที่เครื่องเสียหายจากน้ำหรือของเหลว ศูนย์ไม่ได้รับประกันให้นะครับ ถึงแม้ว่าเครื่องจะยังอยู่ในประกันหรือเครื่องจะยังมีความสามารถในการกันน้ำอยู่
ทั้งนี้ เครื่องมือถือไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในสถานการณ์ที่เปียกหรือชื้น มาตรฐาน IP ที่กำหนดมาไม่ได้วารันตีว่าเครื่องของเราจะกันน้ำได้ 100% เพราะมีปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้่ประสิทธิภาพการกันน้ำของเครื่องเราลดลงตลอดเวลา ฉะนั้นแล้วถ้ามีความจำเป็นจะต้องโดนน้ำให้เราหาอุปกรณ์กันน้ำอื่นๆ เข้ามาป้องกันเครื่องมือถือของเราเพิ่มเติมนะครับ
หากโทรศัพท์มือถือของเราเปียกน้ำ ควรทำอย่างไร?
1.ปิดเครื่องทันที ป้องกันการช็อตจากไฟฟ้าลัดวงจร
2.รีบเช็ดโทรศัพท์ของเราให้แห้ง และสบัดเอาน้ำให้ออกให้ได้มากที่สุด
3.เราไม่ควรใช้ไดร์เป่าผมเพื่อทำให้น้ำแห้ง เพราะความร้อนอาจทำให้อะไหล่ภายนอกหรือภายในเครื่องเสียหายเพิ่มเติมได้
4.ไม่แนะนำให้ชาร์จแบตเด็ดขาด ต้องมั่นใจว่าภายในเครื่องแห้งสนิทดีแล้วจึงชาร์จแบตได้
5.เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องแห้งสนิท ควรนำมือถือที่เปียกน้ำเข้าร้านที่มีมาตรฐานมีความน่าเชื่อ เพื่อแกะทำความสะอาดและทำให้แห้งสนิทเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจตามมาได้
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วพอจะทราบแล้วนะครับว่า มือถือของเรากันน้ำได้แค่ไหน?
ปรึกษาอาการเสียและประเมินค่าใช้จ่าย ฟรี ได้ที่ไลน์นี้ครับ @yukifix_center
สาขาที่ให้บริการ คลิกที่สาขาได้เลย มีแผนที่นำทางให้ครับ
Comments